ปุ่ม Windows Key บนคีย์บอร์ดมีไว้ทำอะไร และมีประโยชน์อย่างไร
วันนี้เราลองมาใช้ประโยชน์จากเจ้าปุ่มนี้กัน
ตั้งแต่เริ่มยุค Windows 95 เป็นต้นมา ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows คงจะได้เห็นปุ่มที่มีสัญลักษณ์ Windows หรือที่เรียกว่า Windows Key บนแป้นพิมพ์มาโดยตลอด ประโยชน์ของปุ่ม Windows Key ก็คือ ทำให้เราสามารถเข้าถึงเมนู หรือแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่กดปุ่มนี้บนคีย์บอร์ดร่วมกับปุ่มอื่น ๆ ก็สามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นของ Windows ได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเวลาในการลากเมาส์ไปยังจุดที่ต้องการ วันนี้ผมจะมาสรุปการใช้งานปุ่ม Windows Keys ที่ใช้งานกันบ่อย ๆ บน Windows 10 ให้ได้รู้กันครับ
1. เปิดการใช้งาน Start Menu ซึ่งก็คือปุ่มรูป Windows logo มุมล่างซ้าย เป็นการเริ่มต้นการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ภายในเครื่องของเรา
2. +
เปิดการใช้งาน Action Center ซึ่ง Action Center ก็คือปุ่มรูปกล่องข้อความบริเวณมุมล่างขวา ในส่วนของ Action Center ก็จะประกอบไปด้วยการแจ้งเตือนต่าง ๆ หรือ Notifications และการเข้าถึงการตั้งค่าต่าง ๆ เช่น การปิดเปิด Wifi, การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ , การแสดงผลบน Projector และ การเข้าถึงการตั้งค่าของ Windows เป็นต้น
3. +
เปิดการใช้งาน Cortana หลายคนอาจสงสัยว่า Cortana คืออะไร และมีไว้ทำอะไร Cortana เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวของเรา ถ้าจะให้อธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ Cortana ก็จะคล้าย ๆ Siri ของ iOS ครับ นั่นก็คือ การสั่งงานด้วยเสียงนั่นเอง แต่ปัจจุบัน Microsoft ได้ทำการพัฒนา Cortana ไปในทางธุรกิจเสียมากกว่า โดยปรับปรุง Cortana ให้ซัพพอร์ตการทำงานร่วมกับ Microsoft 365 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน Microsoft 365 มากขึ้นนั่นเอง
4. +
แสดงหน้าจอ Desktop – Show Desktop (ย่อทุกหน้าจอโปรแกรมลงบน Taskbar)
5. +
เปิดการใช้งาน Windows Explorer หรือ File Explorer
6. +
เปิดการใช้งาน Feedback Hub เป็นแอปพลิเคชั่นบน Windows ที่ช่วยให้เราส่งปัญหาต่าง ๆ ไปถามทาง Microsoft ได้ และเรายังสามารถค้นหาปัญหาการใช้งานที่เกิดขึ้นกับเราได้ด้วย กรณีที่คนที่เจอปัญหาเดียวกับเราได้เคยแจ้งปัญหาเข้ามาแล้ว ก็จะมีคำตอบเกี่ยวกับการแก้ปัญหานั้น ๆ อยู่ ซึ่งเราก็สามารถเข้าไปอ่านคำแนะนำการแก้ปัญหาได้
7. +
เปิดการใช้งาน Game DVR bar (Xbox Game Bar) ฟังก์ชั่นนี้น่าสนใจนะครับ ไม่ใช่แต่คนเล่นเกมส์ที่เหมาะที่จะใช้ แต่ผู้ใช้งาน Windows ทั่ว ๆ ไปแบบเรา ๆ ก็คู่ควรนะ โดยเฉพาะฟังก์ชั่นการบันทึกหน้าจอ ซึ่งทำให้เราบันทึกหน้าจอของเราได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลดโปรแกรมเสริมใด ๆ มาใช้งานเลย ซึ่งตรงนี้ผมจะพูดถึงในบทความต่อไปเกี่ยวกับการใช้งานการบันทึกหน้าจอแบบละเอียด ๆ อีกครั้งครับ
8. +
เปิดการใช้งาน Dictation Bar ฟังก์ชั่นนี้ก็เป็นอีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่น่าสนใจครับ ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ การเขียนข้อความด้วยคำพูด อะไรประมาณนี้ ทำให้เราสามารถเขียนข้อความต่าง ๆ ได้ โดยใช้คำพูดของเรา ไม่ต้องเสียเวลานั่งพิมพ์อีกต่อไป แต่…ณ เวลานี้ ยังไม่รองรับการทำงานร่วมกับภาษาไทยนะขอรับ แหม…เศร้าเบย
9. +
เปิดการใช้งานหน้าต่าง Settings (ตั้งค่าระบบ)
10. +
เปิดหน้าต่าง Connect action (การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ) คล้าย ๆ กับ Action Center แต่สามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกได้ทันที โดยไม่ต้องผ่าน Action Center
11. +
ล็อคเครื่องคอมพิวเตอร์ (Lock PC) ล็อคเครื่องทันใจ เพื่อความปลอดภัยตอนเราไม่อยู่
12. +
ย่อหน้าต่างที่เปิดอยู่ทั้งหมดลงบน Taskbar (Minimize all windows)
13. +
+
เรียกหน้าต่างที่ถูกย่ออยู่ทั้งหมดคืนกลับมาตามปกติ (Restore all windows)
14. +
เปิดการใช้งานคำสั่ง Run เราสามารถเปิดโปรแกรม หรือไฟล์ต่าง ๆ ในเครื่องของเราได้ ด้วยการพิมพ์ชื่อลงไปในช่องนี้ และสิ่งนี้ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับ Power User ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการใช้งานได้ด้วย
15. +
เปิดการใช้งานคำสั่งค้นหา (Search) เป็นการค้นหาทุกอย่างที่อยู่ในเครื่องเรา เช่น ไฟล์, แอปพลิเคชั่น และสามารถค้นหาผ่านทาง Internet Browser ได้ทันที หากไม่พบสิ่งที่กำลังค้นหาในเครื่องของเรา
16. +
เปิดการใช้งาน Clipboard history ฟังก์ชั่นนี้ก็เป็นอีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่มีประโยชน์ และเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานให้กับเราอย่างมาก เพราะเราสามารถย้อนกลับไปหาการก็อปปี้ครั้งก่อน ๆ ได้ และสามารถเลือกได้ว่า เราจะนำก็อปปี้ตัวใดใน Clipboard มาใช้ เพียงแค่คลิกเม้าส์ลงไปบนตัวที่เราต้องการ ไม่ใช่แค่ข้อความนะครับ รูปภาพก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน เสร็จโจรละทีนี้ 555
17. +
เปิดการใช้งาน Quick Link Menu เป็นการรวบรวมเมนูสำคัญ ๆ และใช้งานบ่อย ๆ สำหรับผู้ใช้งาน Windows มาไว้ในเมนูเดียว เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการใช้งาน
18. + Spacebar เปลี่ยนภาษา (Language switching) และบางครั้งก็อาจทำให้เราปวดหัว และหงุดหงิดบ้าง หากเราใช้ภาษามากกว่า 2 ภาษาขึ้นไปในเครื่องของเรา
19. +
or
+
เปิดใช้งาน Emoji panel ต่อไปการพิมพ์ของเราจะสนุกขึ้นแล้วนะครับ เพราะเราสามารถพิมพ์ข้อความ และ Emoji บน Windows ได้แล้วจ้า
20. + <number> เช่น
+
เป็นการเรียกใช้งานแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ เรียงตามลำดับก่อนหลังบน Taskbar ของเรา ทั้งที่เรา pin ไว้ และที่เรากำลังเปิดใช้งานอยู่ มีทริคอยู่นิดนึงนะครับ ต้องใช้แป้นตัวเลขของคีย์หลักเท่านั้นนะ แป้นตัวเลขบน Keypad ใช้ไม่ได้จ้า
21. +
ขยายหน้าต่างที่กำลังใช้งานอยู่ให้เต็มจอ (Maximize)
22. +
ย่อหน้าต่างที่กำลังใช้งานอยู่ลงใน Taskbar – Minimize to Taskbar (ถ้าหน้าจอที่กำลังใช้งานอยู่อยู่ในโหมดเต็มจอ จะเป็นการปรับหน้าต่างให้อยู่ในขนาดปกติ)
23. +
จัดเรียงหน้าต่างที่กำลังใช้งานอยู่ ให้ไปชิดทางขวา (Arrange to right)
24. +
จัดเรียงหน้าต่างที่กำลังใช้งานอยู่ ให้ไปชิดทางซ้าย(Arrange to left)
25. +
or
ซูมหน้าจอ เช้า ออก (Zoom In / Out) เสมือนว่า เรากำลังใช้แว่นขยายส่องเข้าไปยังหน้าจอที่เรากำลังทำงาน
26. +
เปิดการใช้งาน Task View ทำให้เราสามารถเห็นภาพรวมได้ว่า เรามี Virtual Desktop อยู่ทั้งหมดเท่าไหร่ , Virtual Desktop ตัวไหนกำลังทำงานอะไรอยู่ และยังสามารถดูประวัติ (History) การทำงานของแต่ละ Virtual Desktop ได้อีกด้วย
27. +
+
สร้าง Virtual Desktop โต๊ะทำงานของเราจะไม่จำเจอีกต่อไป Desktop ก็เปรียบเสมือนโต๊ะทำงานของเรา การสร้าง Virtual Desktop ก็เหมือนการที่เรามีโต๊ะทำงานหลาย ๆ ตัว ทำให้เราสามารถแยกงานที่ทำได้อย่างชัดเจนว่า Desktop ไหนเรากำลังทำงานอะไรอยู่ และอีกนัยหนึ่ง มันก็ช่วยซ่อนสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ แต่ไม่อยากให้ใครเห็นได้ด้วยเหมือนกัล อิอิ
28. +
+
or
สลับ Virtual Desktop เลือกว่าจะทำงานกับ Virtual Desktop อันไหน
29. +
+
ปิด Virtual Desktop ที่กำลังใช้งานอยู่
30. +
+
เปิดการใช้งาน Snip & Sketch แอปพลิเคชั้นสำหรับบันทึกภาพหน้าจอ Screenshot Capture ที่แถมมาให้ใช้งานกันแบบฟรี ๆ บน Windows 10 สามารถบันทึกภาพหน้าจอได้แบบฟรีสไตล์ เพียงลากเมาส์เป็นกรอบในจุดที่เราต้องการ จากนั้นก็สามารถดัดแปลง แก้ไขเพิ่มเติมได้ เรียกว่า จบ ครบ ในตัว โดยไม่ต้องเสาะหาโปรแกรมช่วยตัวอื่นมาลงให้เสียเวลาเลย
ปุ่ม Windows Key นี้เปรียบเหมือน shortcut ในการเข้าถึงการทำงานบางคำสั่งได้โดยไม่ต้องคลิกเม้าส์ ซึ่จะช่วยให้เราสะดวกในการทำงานมากขึ้น โดยไม่ต้องลากเม้าส์บ่อย ๆ แต่ในระบบปฏิบัติการ Windows แต่ละเวอร์ชั่น ก็จะเพิ่ม shortcut ใหม่ ๆ เข้ามา ดังนั้นในระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชั่นเก่า อาจไม่สามารถใช้งาน shortcut บางตัวได้นะครับ
ก่อนจากกัน ขอแนะนำโปรแกรม Windows 10 PowerToys ซึ่งเป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility) ที่จะมาช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และเพิ่มความสนุกสนานเพลิดเพลินในการใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows ครับ เพราะโปรแกรมตัวนี้สามารถเพิ่มลูกเล่นในการใช้งาน Windows ได้ เช่น การเปลี่ยนชื่อไฟล์หลาย ๆ ไฟล์ได้พร้อมกัน (PowerRename) หรือจะเป็นการปรับขนาดรูปภาพได้อย่างง่ายดายแค่คลิกขวาครั้งเดียว (PowerToys Image Resizer) และภาพที่แสดงด้านบน เป็นการบอกรายละเอียดของ Windows Key Shortcut ง่าย ๆ เพียงแค่กดปุ่ม Windows Key บนคีย์บอร์ดค้างไว้ ใครสนใจอยากลองใช้สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ตามลิงค์ใต้ภาพนะครับ Microsoft เขาใจดีให้เราสามารถโหลดไปใช้งานกันได้ฟรี ๆ เลย
หวังว่าการสรุปปุ่ม Windows Key ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใครหลาย ๆ คนนะครับ 😊

สามารถติดตาม Blog Journey ผ่านทาง social media ได้หลากหลายช่องทาง ตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ
- WordPress: Blog Journey
- Facebook: Blog Journey Fanpage
- Twitter: @Blog_Journey_th
- Blockdit: Blog Journey Page
- TrueID: @NexUs
ขอขอบคุณ
- Windows 10 PowerToys version 0.23.2
- 30 Essential Windows Key Keyboard Shortcuts for Windows 10
- Windows key (Wikipedia)
- ภาพปกจาก FreePik โดย @montypeter
บทความโดย
Xiao Er แห่งไซเบอร์สเปซ Blog Journey